กรมการขนส่งทางบก ยืนยัน!!! การใช้แอพพลิเคชั่นเรียกรถแท็กซี่ไม่ผิดกฎหมาย

กรมการขนส่งทางบก ยืนยัน!!! การใช้แอพพลิเคชั่นเรียกรถแท็กซี่ไม่ผิดกฎหมาย โดยภาครัฐพร้อมให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง ย้ำ!!! ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้การบริการที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ตัวรถต้องจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะ (ป้ายเหลือง) มีกรมธรรม์ประกันภัย คนขับต้องมีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ใช้มาตรค่าโดยสารตามอัตราที่ทางราชการกำหนด ห้ามใช้รถยนต์ส่วนบุคคล (ป้ายดำ) มารับส่งผู้โดยสารเด็ดขาด พร้อมเดินหน้าผลักดันโครงการ TAXI OK , TAXI VIP เพื่อยกระดับการให้บริการแท็กซี่อย่างเป็นรูปธรรม
       นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อยกระดับการให้บริการรถแท็กซี่ให้สามารถตอบสนองความต้องการประชาชนภายใต้การกำกับควบคุมดูแลจากภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพและยกระดับให้เป็นระบบขนส่งสาธารณะที่มีความสะดวกสบายและปลอดภัยอย่างแท้จริง ภาครัฐพร้อมให้การสนับสนุนการพัฒนาการให้บริการในทุกๆ ด้านภายใต้กรอบที่กฎหมายอนุญาต ทั้งยังพร้อมให้การสนับสนุนผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ ภายใต้เงื่อนไขและระเบียบของทางราชการ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกและประโยชน์สูงสุดของประชาชนทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้มีการชี้แจงไปยังผู้ประกอบการโดยตรง และสร้างการรับรู้ทำความเข้าใจกับประชาชนผ่านทางสื่อสาธารณะอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดว่า แอพพลิเคชั่นในการเรียกใช้บริการแท็กซี่นั้น สามารถกระทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ประเด็นที่ผิดกฎหมายคือ การนำแอพพลิเคชั่นไปใช้เรียกรถยนต์ส่วนบุคคล (ป้ายดำ) มารับจ้างรับส่งผู้โดยสาร ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ฐานใช้รถยนต์ผิดประเภทจากที่จดทะเบียนไว้ ไม่ใช้มาตรค่าโดยสารตามที่ทางราชการกำหนด ผู้ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ไม่เคยผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และไม่เข้าสู่ระบบทะเบียนของศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ประชาชนจะไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย และกรณีเกิดเหตุไม่พึงประสงค์เป็นอันตรายต่อความปลอดภัย ภาครัฐจะไม่สามารถติดตามรถหรือคนขับรถมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ดังนั้น ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นสำหรับเรียกรถแท็กซี่ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการรถแท็กซี่ที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น โดยตัวรถต้องจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะ (ป้ายเหลือง) มีกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อคุ้มครองสิทธิผู้โดยสาร ผ่านการตรวจสภาพความมั่นคงแข็งแรงของรถตามระยะเวลาที่กำหนด คนขับต้องมีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีประวัติในศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะของกรมการขนส่งทางบก การให้บริการต้องใช้มาตรค่าโดยสารตามอัตราที่ทางราชการกำหนด และต้องให้บริการด้วยความปลอดภัย

        อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปอีกว่า ในทางคู่ขนาน กรมการขนส่งทางบกได้พัฒนายกระดับมาตรฐาน รถแท็กซี่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น มั่นใจ ความปลอดภัย โดยดำเนินโครงการ TAXI OK /TAXI VIP ซึ่งร่างกฎกระทรวงทั้งสองฉบับได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2559 และกรมการขนส่งทางบกได้ยืนยันในร่างกฎกระทรวงทั้งสองฉบับกลับไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อส่งให้กระทรวงคมนาคมลงนาม คาดว่าจะสามารถประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ภายในต้นเดือนกรกฎาคม 2560 และจะมีผลใช้บังคับภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะเป็นมาตรการในการยกระดับมาตรฐานการให้บริการและความปลอดภัยสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเพิ่มขึ้น โดย โครงการ TAXI-OK เป็นการยกระดับการให้บริการแท็กซี่ในปัจจุบัน โดยการติดตั้ง GPS Tracking พร้อมอุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับรถ, กล้อง CCTV, มีปุ่มฉุกเฉิน (ส่งข้อมูล Online มาที่ศูนย์ GPS ทันที), มีระบบแจ้งเตือนการใช้ความเร็ว รวมถึงจัดทำระบบเรียกใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อตอบโจทย์การเข้าถึงการให้บริการ เพิ่มความสะดวก ป้องกันปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร การไม่เปิดมิเตอร์ ติดตามพฤติกรรมตลอดการให้บริการ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และโครงการ TAXI VIP หรือรถแท็กซี่ชนิดพิเศษ เป็นการเพิ่มทางเลือกในการให้บริการของประชาชน โดยใช้รถที่มีมาตรฐานขนาดตัวรถและสมรรถนะที่สูงกว่ารถแท็กซี่ทั่วไป เพิ่มอุปกรณ์ส่วนควบสำหรับให้บริการที่มีความสะดวกมากขึ้น เพิ่มเติมจากข้อกำหนดการติดตั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ส่วนควบตามโครงการ TAXI OK อีกทั้ง ผู้ประกอบการต้องเป็นนิติบุคคล มีความพร้อมทางธุรกิจ มีแผนการประกอบการแบบมืออาชีพ

        อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปอีกว่า กรมการขนส่งทางบกแนะนำให้ประชาชนเลือกใช้บริการรถแท็กซี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยต้องจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะ (ป้ายเหลือง) เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและได้รับการคุ้มครองสิทธิผู้โดยสารตามกฎหมาย โดยกรมการขนส่งทางบกมีมาตรการในการกำกับ ควบคุม คัดกรอง และบังคับใช้กฎหมายกับรถแท็กซี่อย่างเข้มงวดและลงโทษขั้นสูงสุด รวมถึงมีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียนที่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง ทางสายด่วน 1584, ทางเว็บไซด์http://ins.dlt.go.th/cmpweb/ , E-Mail dlt_1584complain@hotmail.com , Application ชื่อ “ร้องเรียนรถสาธารณะ” หรือ “dlt check-in”, FACEBOOK ชื่อ “ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584” , LINE ID ชื่อ “1584dlt” , ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ (GCC1111) ผ่านระบบการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล สำนักนายกรัฐมนตรี, ทางจดหมาย/หนังสือร้องเรียน ส่งมายังกรมการขนส่งทางบก หรือร้องเรียนด้วยตนเอง ได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน กองตรวจการขนส่งทางบก อาคาร 3 ชั้น 4 โดยมีระบบการแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการให้ผู้ร้องเรียนทราบผ่านทาง SMS อธิบดีกรมการขนส่งทางบก


Cr: กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News