เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้า (Electronic Vehicle : EV) ใช้กำลังไฟในการวิ่งแบบ 100%
เพราะฉะนั้น หัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า คงเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก “แบตรถยนต์ไฟฟ้า”
ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นขุมพลังในการจ่ายไฟให้ระบบการขับขี่ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถทำงาน
และวิ่งต่อไปได้อย่างไม่มีสะดุด
1.แบตเตอรี่ชนิดตะกั่วกรด (Lead Acid Battery)
-
เป็นแบตเตอรี่ที่ใช้มานานในรถยนต์ทั่วไป
-
มีราคาไม่แพง หาซื้อง่าย
-
มีความปลอดภัยสูง
-
ทนทานต่ออุณหภูมิที่หลากหลาย
-
แต่มีน้ำหนักมาก
-
เก็บพลังงานได้น้อย
-
อายุการใช้งานสั้น
-
เหมาะกับรถไฟฟ้าที่ใช้งานระยะสั้น
2.แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออน (Lithium Ion Battery / Li-ion)
-
เป็นแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถไฟฟ้าสมัยใหม่
-
เก็บพลังงานได้มากกว่าแบตเตอรี่ตะกั่วกรด
-
มีน้ำหนักเบา
-
ชาร์จไฟได้เร็ว
-
อายุการใช้งานยาวนาน
-
แต่มีราคาแพง
-
ไม่ทนทานต่ออุณหภูมิที่สูง
3.แบตเตอรี่ชนิดนิกเกิล-เมทัลไฮไดรด์ (Nickel-metal Hydride Battery / Ni-MH)
-
เป็นแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพอยู่ระหว่างแบตเตอรี่ตะกั่วกรดและลิเธียมไอออน
-
เก็บพลังงานได้มากกว่าแบตเตอรี่ตะกั่วกรด
-
มีน้ำหนักเบากว่า
-
ชาร์จไฟได้เร็ว
-
อายุการใช้งานยาวนานกว่า
-
แต่มีราคาแพงกว่าแบตเตอรี่ตะกั่วกรด
-
ไม่ทนทานต่ออุณหภูมิที่สูง
4.แบตเตอรี่ชนิดโซเดียม-ไอออน (Sodium Ion Battery / Na-Ion Battery)
-
เป็นแบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่
-
มีราคาถูกกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
-
ทนทานต่ออุณหภูมิที่สูง
-
แต่เก็บพลังงานได้น้อยกว่า
-
อายุการใช้งานสั้นกว่า
-
ยังอยู่ในช่วงพัฒนา
—————————–