วิธีการขับรถลุยน้ำท่วมอย่างปลอดภัย
เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนหรือเกิดพายุหนัก น้ำท่วมฉับพลันอาจกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ของผู้ใช้รถใช้ถนน การขับรถลุยน้ำท่วมเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหากไม่จำเป็น แต่หากเลี่ยงไม่ได้ ผู้ขับขี่ควรมีความรู้และเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อตัวรถหรืออันตรายต่อชีวิต
1.ประเมินระดับน้ำก่อนลุย
-
หากระดับน้ำเกินครึ่งล้อรถ หรือประมาณ 30 เซนติเมตร (โดยเฉพาะรถเก๋ง) ไม่ควรลุยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้น้ำเข้าระบบเครื่องยนต์
-
หากเป็นรถกระบะหรือ SUV ที่มีช่วงล่างสูง อาจลุยได้ที่ความลึกไม่เกิน 40–50 เซนติเมตร แต่ก็ยังมีความเสี่ยง
2.ปิดแอร์และเปิดกระจกเล็กน้อย
-
การปิดแอร์ช่วยป้องกันไม่ให้พัดลมหม้อน้ำทำงาน ซึ่งอาจดูดน้ำเข้าไปในห้องเครื่อง
-
เปิดกระจกเล็กน้อยเพื่อลดแรงดันอากาศภายในรถ ทำให้ประตูไม่ดูดแน่นกรณีน้ำเข้ารถ
3.ใช้เกียร์ต่ำ เดินคันเร่งคงที่
-
ใช้เกียร์ 1 (เกียร์ต่ำสุด) หรือเกียร์ L สำหรับเกียร์อัตโนมัติ เพื่อให้รถมีแรงส่งมากพอ
-
เดินคันเร่งอย่างสม่ำเสมอ อย่าหยุดกลางน้ำ เพราะอาจทำให้รถดับ
4.อย่าเร่งเครื่องหรือเบรกกะทันหัน
-
การเร่งเครื่องแรง ๆ อาจทำให้น้ำกระเด็นเข้าสำลักเครื่องยนต์
-
การเบรกแรงอาจทำให้รถเสียการทรงตัว ควรเบรกเบา ๆ และอย่างระมัดระวัง
5.ขับตามรอยรถคันหน้า
-
หากมีรถคันหน้าลุยไปได้ ให้พยายามขับตามรอยล้อของรถคันนั้น เพราะเป็นเส้นทางที่น้ำลดระดับลงบ้างแล้ว
-
เว้นระยะห่างอย่างปลอดภัย หากรถคันหน้าติดหรือจอดจะได้มีเวลาตัดสินใจ
6.หลังลุยน้ำเสร็จ ควรตรวจสอบรถ
-
เหยียบเบรกเบา ๆ หลายครั้ง เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก
-
ตรวจสอบน้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์ว่ามีสีน้ำตาลขุ่นหรือไม่ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าน้ำอาจเข้าไปในระบบ
-
ล้างใต้ท้องรถทันทีเพื่อล้างเศษดินโคลนที่อาจติดอยู่
สรุป
การขับรถลุยน้ำท่วมควรเป็น “ทางเลือกสุดท้าย” ที่ทำด้วยความระมัดระวัง การรู้วิธีที่ถูกต้องสามารถช่วยลดความเสี่ยงและค่าเสียหายได้มาก หากมีทางเลือกอื่น เช่น เลี่ยงเส้นทาง หรือรอให้น้ำลด จะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าเสมอ
—————————————————-
สนใจติดตั้ง GPS FORTH
Line OA : @forthtrack
Tel.02-615-0808
Website : www.forthtrack.co.th