บทความ GPS

ทำไมต้องติดตั้ง GPS FORTH กับช่างผู้ชำนาญ?

โดย |2025-08-27T14:20:44+07:00สิงหาคม 27th, 2025|บทความ GPS|

GPS FORTH ติดตั้งโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ มั่นใจได้ทุกเส้นทาง ในยุคที่ความปลอดภัยและการบริหารจัดการยานพาหนะเป็นเรื่องสำคัญ การเลือกใช้ระบบ GPS ที่ได้มาตรฐานเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่ “การติดตั้งที่ถูกต้อง” โดยผู้เชี่ยวชาญก็มีผลอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพของระบบ  GPS FORTH มีประสบการณ์มากว่า 20 ปี ทำให้ลูกค้าไว้วางใจติดตั้งกับฟอร์ทอย่างยาวนาน GPS FORTH มาพร้อมบริการติดตั้งโดย ทีมช่างผู้ชำนาญงานเฉพาะทาง ที่มีประสบการณ์สูง เข้าใจระบบไฟของรถทุกรุ่น ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุก รถจักรยานยนต์ ไปจนถึงรถเพื่อการพาณิชย์ ทำไมต้องติดตั้ง GPS FORTH กับช่างผู้ชำนาญ? ✅ ติดตั้งเรียบร้อย ไม่รบกวนระบบไฟ ✅ ตรวจสอบตำแหน่งสัญญาณได้แม่นยำ ✅ ช่างมีประสบการณ์ด้านการติดตั้งจีพีเอสโดยตรง ✅ มั่นใจในความเป็นมืออาชีพ บริการถึงที่ทั่วประเทศ เราไม่ได้แค่ขายอุปกรณ์ GPS แต่เราขาย ความสบายใจ ให้กับเจ้าของรถทุกคน “เพราะการติดตั้งที่ถูกต้อง คือจุดเริ่มต้นของการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด” หากคุณกำลังมองหาระบบ GPS ที่ทั้งแม่นยำและมั่นใจได้ในบริการหลังการขาย อย่าลืมว่า... GPS FORTH มีช่างผู้ชำนาญดูแลรถของคุณทุกขั้นตอน

จบไปแล้วกับงาน Tilog Logistix 2025

โดย |2025-08-27T11:09:14+07:00สิงหาคม 27th, 2025|บทความ GPS|

  ขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ที่มาเยี่ยมชมและให้ความสนใจ GPS Tracking & IoT Solution ของ Forth Tracking แล้วพบกันใหม่ปีหน้านะคะ *************************** ปรึกษาติดตั้ง GPS FORTH Line OA : @forthtrack / ลิ้งค์กด https://lin.ee/FrgIdqK Tel. 02-615-0808 / Call center 061-417-0808 Website : www.forthtrack.co.th

GPS ธรรมดา VS GPS FORTH ต่างกันยังไง?

โดย |2025-08-11T11:23:14+07:00สิงหาคม 11th, 2025|บทความ GPS|

GPS ธรรมดา VS GPS FORTH ต่างกันยังไง? ✅ เหมาะสำหรับ: ธุรกิจขนส่ง / โลจิสติกส์ รถเช่า / รถรับส่งพนักงาน ก่อสร้าง / กระจายสินค้า หน่วยงานราชการ / ภาคอุตสาหกรรม 🔍 GPS FORTH = “มากกว่าการติดตาม” คือเครื่องมือวิเคราะห์ ช่วยให้ธุรกิจ “เห็นต้นทุน – ลดความเสี่ยง – เพิ่มประสิทธิภาพ” แบบที่ GPS ธรรมดาทำไม่ได้ 📩 ติดต่อทีมงานเพื่อขอคำปรึกษา 📱 LINE: @forthtrack Tel. : 02-615-0808 Call Center : 061-417-0808 🌐 www.forthtrack.co.th |

9 โรคประจำตัว ที่อาจกระทบต่อการขับรถ

โดย |2025-06-18T11:36:04+07:00มิถุนายน 18th, 2025|บทความ GPS|

  การขับรถต้องอาศัยสมาธิ การตอบสนองที่รวดเร็ว และความสามารถในการควบคุมร่างกายอย่างเต็มที่ ซึ่งโรคประจำตัวบางอย่างอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับรถอย่างมาก นี่คือ 9 โรคประจำตัวที่อาจมีผลกระทบต่อการขับขี่ 1.โรคลมชัก ผู้ป่วยอาจหมดสติหรือชักขณะขับรถได้ เสี่ยงต่ออุบัติเหตุรุนแรง จำเป็นต้องควบคุมอาการให้ดี และมีใบรับรองแพทย์ 2.โรคหัวใจ อาการหัวใจวายหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะกะทันหันอาจทำให้หมดสติ ผู้ที่มีภาวะหัวใจรุนแรงไม่ควรขับรถโดยไม่ปรึกษาแพทย์ 3.เบาหวาน หากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) อาจทำให้หมดสติหรือเบลอ ควรควบคุมระดับน้ำตาลให้ดี และพกอาหารหวานติดตัวเสมอ 4.ผู้ที่ทานยามีฤทธิ์ให้ง่วง ยาที่ใช้รักษาอาจมีผลข้างเคียง เช่น ง่วงซึมหรือการรับรู้ช้าลง อารมณ์แปรปรวนหรือสูญเสียการควบคุมอารมณ์อาจส่งผลต่อพฤติกรรมการขับรถ 5.โรคนอนไม่หลับ / ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) ทำให้คนขับง่วงขณะขับรถ มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูง การใช้เครื่องช่วยหายใจขณะนอนหลับสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้ 6.โรคทางตา ทำให้การมองเห็นลดลง มองไม่ชัด หรือมีจุดบอด ความสามารถในการประเมินระยะทางและความเร็วลดลง 7.พาร์กินสัน ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว การตอบสนอง และการควบคุมกล้ามเนื้อ อาจทำให้ขับรถไม่ปลอดภัยโดยเฉพาะเมื่อโรครุนแรงขึ้น 8.โรคหลอดเลือดสมอง อาจมีอาการอ่อนแรงด้านใดด้านหนึ่ง หรือมีปัญหาการรับรู้ ต้องประเมินความสามารถซ้ำหลังฟื้นตัว 9.ความดันโลหิตสูง ถ้าไม่ได้ควบคุม อาจเสี่ยงต่อโรคหัวใจหรือเส้นเลือดในสมอง บางรายมีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด ซึ่งไม่เหมาะกับการขับรถ

ติด GPS FORTH รถ EV (รถไฟฟ้า) ช่วยอะไรได้บ้าง?

โดย |2025-06-17T10:23:34+07:00มิถุนายน 17th, 2025|บทความ GPS|

               1.ป้องกันการโจรกรรม ติด GPS ช่วยติดตามพิกัดรถได้แบบเรียลไทม์ หากรถหายหรือถูกขโมย ก็สามารถติดตามตำแหน่งรถได้ทันที                2.วางแผนการเดินทางได้ง่าย ระบบ GPS ช่วยคำนวณเส้นทางที่เหมาะสม ประเมินเวลาเดินทาง และวางแผนชาร์จไฟได้แม่นยำกว่าเดิม                3.รู้ตำแหน่งสถานีชาร์จไฟ บางรุ่นเชื่อมกับฐานข้อมูลสถานีชาร์จไฟ ช่วยบอกพิกัดที่ชาร์จใกล้ๆ ได้สะดวก หมดห่วงเรื่องไฟหมดกลางทาง                 4.บริหารจัดการการใช้พลังงาน ติดตามระยะทางการใช้งาน ช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพการใช้แบตเตอรี่ เพื่อปรับแผนขับขี่ให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น          

ระบบดาวเทียมนำทาง GNSS กับระบบ GPS ติดตามรถและนำทาง ต่างกันอย่างไร

โดย |2025-06-09T13:20:56+07:00มิถุนายน 9th, 2025|บทความ GPS|

ระบบดาวเทียมนำทาง GNSS กับระบบ GPS ติดตามรถและนำทาง ต่างกันอย่างไร ปัจจุบันระบบดาวเทียมนำทางได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้แอปพลิเคชันนำทาง การติดตามยานพาหนะ หรือแม้กระทั่งระบบอัตโนมัติในภาคอุตสาหกรรม แต่หลายคนอาจสงสัยว่า GNSS และ GPS คือสิ่งเดียวกันหรือไม่ และระบบติดตามรถที่ใช้งานทั่วไปเกี่ยวข้องกับสองระบบนี้อย่างไร GNSS คืออะไร GNSS ย่อมาจาก Global Navigation Satellite System หรือ “ระบบดาวเทียมนำทางด้วยสัญญาณจากทั่วโลก” เป็นคำเรียกรวมของระบบดาวเทียมหลายระบบจากหลายประเทศที่ให้บริการระบุตำแหน่งบนพื้นโลกอย่างแม่นยำ GPS คืออะไร? GPS เป็นระบบ GNSS ระบบแรกของโลก พัฒนาโดยกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ใช้งานแพร่หลายในภาคพลเรือนเช่นกัน อุปกรณ์ทั่วไป เช่น สมาร์ตโฟน นาฬิกาอัจฉริยะ และระบบติดตามรถส่วนใหญ่มักรองรับ GPS เป็นพื้นฐาน และอาจรองรับระบบอื่นใน GNSS ด้วยเพื่อเพิ่มความแม่นยำ ระบบ GPS ติดตามรถและระบบนำทางคืออะไร? ระบบ GPS ติดตามรถยนต์ คือการใช้อุปกรณ์ GPS Tracking ที่ติดตั้งในรถเพื่อติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์

สัญญาณเตือน เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์

โดย |2025-05-28T10:49:34+07:00พฤษภาคม 28th, 2025|บทความ GPS|

🔋 เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่? เพื่อให้ระบบ GPS ทำงานได้ต่อเนื่อง ไม่สะดุด! แบตเตอรี่ไม่เพียงแค่สำคัญต่อการสตาร์ทรถ แต่ยังเป็นหัวใจหลักของระบบต่าง ๆ ภายในรถ รวมถึง ระบบติดตาม GPS หากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม อาจส่งผลให้ข้อมูลจากอุปกรณ์ GPS ขาดหาย หรือล่าช้า ซึ่งกระทบต่อการจัดการบริหารรถของคุณ สัญญาณเตือนที่คุณไม่ควรมองข้าม 1.GPS ขึ้นสถานะออฟไลน์บ่อยโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน แบตเตอรี่ไม่เสถียร อาจทำให้อุปกรณ์ GPS ส่งสัญญาณไม่ต่อเนื่อง 2.สตาร์ทรถยากหรือไฟไม่พอจ่ายอุปกรณ์เสริมในรถ อุปกรณ์ทุกชิ้นต้องใช้ไฟฟ้า รวมถึงระบบกล้อง GPS และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ 3.แบตรถมีอายุการใช้งานเกิน 2 ปี โดยเฉพาะในรถที่ใช้งานหนักหรือวิ่งต่อเนื่องทุกวัน เช่น รถขนส่ง รถบริการภาคสนาม 4.ระบบแจ้งเตือนจากศูนย์ควบคุม GPS FORTH หากทีมงานของคุณได้รับแจ้งเตือนจากระบบว่ามีปัญหาเรื่องไฟฟ้า นั่นอาจเป็นเพราะแบตเตอรี่เริ่มมีปัญหาแล้ว ------------------------------------------------------ ปรึกษาติดตั้ง GPS Forth Line OA : @forthtrack Call Center :

วิธีการขับรถลุยน้ำท่วมอย่างปลอดภัย

โดย |2025-05-20T10:15:06+07:00พฤษภาคม 20th, 2025|บทความ GPS|

วิธีการขับรถลุยน้ำท่วมอย่างปลอดภัย เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนหรือเกิดพายุหนัก น้ำท่วมฉับพลันอาจกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ของผู้ใช้รถใช้ถนน การขับรถลุยน้ำท่วมเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหากไม่จำเป็น แต่หากเลี่ยงไม่ได้ ผู้ขับขี่ควรมีความรู้และเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อตัวรถหรืออันตรายต่อชีวิต 1.ประเมินระดับน้ำก่อนลุย หากระดับน้ำเกินครึ่งล้อรถ หรือประมาณ 30 เซนติเมตร (โดยเฉพาะรถเก๋ง) ไม่ควรลุยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้น้ำเข้าระบบเครื่องยนต์ หากเป็นรถกระบะหรือ SUV ที่มีช่วงล่างสูง อาจลุยได้ที่ความลึกไม่เกิน 40–50 เซนติเมตร แต่ก็ยังมีความเสี่ยง 2.ปิดแอร์และเปิดกระจกเล็กน้อย การปิดแอร์ช่วยป้องกันไม่ให้พัดลมหม้อน้ำทำงาน ซึ่งอาจดูดน้ำเข้าไปในห้องเครื่อง เปิดกระจกเล็กน้อยเพื่อลดแรงดันอากาศภายในรถ ทำให้ประตูไม่ดูดแน่นกรณีน้ำเข้ารถ 3.ใช้เกียร์ต่ำ เดินคันเร่งคงที่ ใช้เกียร์ 1 (เกียร์ต่ำสุด) หรือเกียร์ L สำหรับเกียร์อัตโนมัติ เพื่อให้รถมีแรงส่งมากพอ เดินคันเร่งอย่างสม่ำเสมอ อย่าหยุดกลางน้ำ เพราะอาจทำให้รถดับ 4.อย่าเร่งเครื่องหรือเบรกกะทันหัน การเร่งเครื่องแรง ๆ อาจทำให้น้ำกระเด็นเข้าสำลักเครื่องยนต์ การเบรกแรงอาจทำให้รถเสียการทรงตัว ควรเบรกเบา ๆ และอย่างระมัดระวัง 5.ขับตามรอยรถคันหน้า หากมีรถคันหน้าลุยไปได้ ให้พยายามขับตามรอยล้อของรถคันนั้น เพราะเป็นเส้นทางที่น้ำลดระดับลงบ้างแล้ว เว้นระยะห่างอย่างปลอดภัย หากรถคันหน้าติดหรือจอดจะได้มีเวลาตัดสินใจ 6.หลังลุยน้ำเสร็จ ควรตรวจสอบรถ เหยียบเบรกเบา

5 วิธีจัดการบริหารรถให้คุ้มค่าในยุคต้นทุนสูงกับGPS FORTH

โดย |2025-05-20T08:44:38+07:00พฤษภาคม 19th, 2025|บทความ GPS|

5 วิธีจัดการบริหารรถให้คุ้มค่าในยุคต้นทุนสูงกับGPS FORTH 1.รู้ตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ ติดตามรถได้ทันทีผ่านระบบ GPS – รู้เลยว่ารถอยู่ที่ไหน ใช้งานอยู่จริงหรือไม่ 🔍 ลดการใช้รถผิดวัตถุประสงค์ / ป้องกันรถหาย 2.ลดพฤติกรรมขับสิ้นเปลือง เช่น ขับเร็ว เบรกแรง หรือจอดติดเครื่องนาน ล้วนทำให้ค่าน้ำมันพุ่ง 📊 ใช้รายงานพฤติกรรมขับขี่ เพื่อปรับปรุงผู้ขับขี่ 3.วางแผนเส้นทางก่อนวิ่ง เลี่ยงรถติด / ทางอ้อม เพื่อลดเวลาและค่าน้ำมัน 🗺️ ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์เส้นทางที่เร็วและคุ้มที่สุด 4.ดูแลรถตามรอบซ่อมบำรุง รถพังกลางทาง เสียโอกาส เสียค่าซ่อมเยอะ 🔧 ตั้งการบำรุงรักษาเตือนล่วงหน้า เช่น เช็กระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง 5.สรุปข้อมูลให้ตัดสินใจไว รถคันไหนใช้งานคุ้ม? คันไหนเปลือง? ใครขับดี? 📈 ใช้ Dashboard วิเคราะห์และเปรียบเทียบข้อมูลการใช้งาน ------------------------------------------------------------------------------------------- 📲 สนใจติดตั้ง Line OA : @forthtrack คลิก https://lin.ee/FrgIdqK

5 วิธีคลายร้อนให้รถยนต์

โดย |2025-05-08T14:26:42+07:00พฤษภาคม 8th, 2025|บทความ GPS|

5 วิธีคลายร้อนให้รถยนต์ในหน้าร้อนนี้ ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานและเพิ่มความสบายในการขับขี่          1.ใช้บังแดดหรือม่านกันแดด การติดตั้งม่านบังแดดที่กระจกหน้าและข้างจะช่วยลดการสะสมความร้อนในรถได้มาก โดยเฉพาะเมื่อจอดกลางแจ้งเป็นเวลานาน เลือกม่านที่สะท้อนรังสี UV ได้ จะช่วยถนอมเบาะและคอนโซลไม่ให้กรอบหรือซีดเร็ว          2.เปิดประตู - กระจกไล่ความร้อนก่อนสตาร์ทรถ เมื่อกลับมาที่รถที่จอดไว้กลางแดด ให้เปิดประตูทั้งสองฝั่งและกระจกหน้าต่างสักพัก เพื่อให้ลมร้อนที่สะสมภายในระบายออกก่อนสตาร์ทรถ วิธีนี้จะช่วยให้อุณหภูมิภายในรถลดลงอย่างรวดเร็ว         3.ฟิล์มกรองแสงคุณภาพดี การติดฟิล์มกรองแสงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ช่วยลดความร้อนและป้องกันรังสี UV เข้าสู่ภายในรถโดยตรง เลือกฟิล์มที่มีค่าการสะท้อนแสงและกรองความร้อนสูง จะช่วยให้แอร์ทำงานเบาลงและประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย         4.จอดในที่ร่มหรือใช้ผ้าคลุมรถ หากหาที่จอดร่มไม่ได้ ลองใช้ผ้าคลุมรถที่มีวัสดุป้องกันความร้อน จะช่วยลดการสะสมความร้อนและป้องกันฝุ่นละอองที่ทำให้สีรถหมองไวขึ้นด้วย         5.เช็กระบบแอร์และหม้อน้ำสม่ำเสมอ อย่ามองข้ามการดูแลระบบปรับอากาศและหม้อน้ำในช่วงหน้าร้อน เพราะหากแอร์ไม่เย็นหรือเครื่องยนต์ร้อนจัด อาจเกิดปัญหาระหว่างการเดินทางได้ ควรนำรถเข้าตรวจเช็กสภาพเป็นระยะ เพื่อความปลอดภัยและสบายใจทุกครั้งที่ขับขี่ สรุป

Go to Top