บทความ GPS

เหตุผลที่ควรเชื่อถือความเร็วจาก GPS มากกว่า ความเร็วที่โชว์บนหน้าจอรถ

โดย |2025-01-20T10:32:35+07:00มกราคม 20th, 2025|บทความ GPS|

  ความเร็วจาก GPS มีความแม่นยำมากกว่า ในปัจจุบัน เทคโนโลยี GPS ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันมากมาย หนึ่งในนั้นคือการแสดงค่าความเร็วในการขับรถ GPS ใช้วิธีคำนวณความเร็วจากการเคลื่อนที่ของรถผ่านพิกัดตำแหน่งที่ตรวจจับได้ โดย GPS จะคำนวณระยะทางที่รถวิ่งต่อเวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่ ซึ่งแตกต่างจาก ความเร็วที่แสดงบนหน้าจอรถ ที่คำนวณจากการหมุนของล้อ ทำไมความเร็วที่แสดงบนหน้าจอรถถึงผิดเพี้ยนไป หน้าจอแสดงความเร็วของรถ ใช้ข้อมูลจากการหมุนของล้อและระบบกลไกของรถในการคำนวณความเร็ว โดยอิงจากการหมุนของเพลาหรือการทำงานของระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับความเร็ว อย่างไรก็ตาม ค่าความเร็วที่แสดงบนหน้าจอรถมักไม่ใช่ความเร็วจริง ๆ ที่รถกำลังวิ่งอยู่ แต่จะถูกปรับให้สูงกว่าความเป็นจริงเล็กน้อยด้วยเหตุผลหลายประการ ได้แก่ 1.มาตรฐานความปลอดภัย : ในหลายประเทศมีกฎหมายกำหนดให้รถแสดงค่าความเร็วที่สูงกว่าความเป็นจริงเล็กน้อย เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการขับขี่ หากรถแสดงความเร็วต่ำกว่าความเป็นจริง อาจทำให้ผู้ขับขี่ไม่รู้ตัวว่าขับรถเร็วเกินไป ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุได้ 2.ขนาดของยางและระบบกลไก: การเปลี่ยนแปลงขนาดของยางหรือการสึกของยางอาจส่งผลต่อความแม่นยำของ Speedometer หากขนาดยางเปลี่ยนจากมาตรฐานที่กำหนดไว้ การหมุนของล้อ จะเปลี่ยนแปลง ทำให้ความเร็วที่คำนวณออกมาคลาดเคลื่อนได้ 3.ระบบกลไกของรถ : ขึ้นอยู่กับการออกแบบของผู้ผลิต บางครั้งความเร็วที่แสดงบนหน้าจอรถ อาจไม่ได้รับการปรับเทียบอย่างถูกต้อง หรือมีค่าความคลาดเคลื่อนตามการใช้งานของระบบ  --------------------------------------------------------- สนใจบริการติดตั้ง GPS FORTH ติดต่อ ได้ที่ Line OA

แนวทางการแก้ไข รถยนต์ถูกโจรกรรม

โดย |2024-12-19T13:18:53+07:00ธันวาคม 19th, 2024|บทความ GPS|

แนวทางการแก้ไข รถยนต์ถูกโจรกรรม การถูกขโมยรถยนต์เป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากเผชิญ แต่หากเกิดขึ้น การเตรียมพร้อมและ การจัดการอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการกู้คืนรถและลดความเสียหายได้ แนวทางที่ควรปฏิบัติเมื่อรถถูกขโมย 1.แจ้งความทันที รีบเดินทางไปที่สถานีตำรวจในพื้นที่ที่ใกล้ที่สุดเพื่อแจ้งความ เตรียมเอกสารสำคัญ เช่น สำเนาทะเบียนรถ ใบขับขี่ และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ ขอรับหมายเลขคดี (Case Number) เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดตามผล 2.แจ้งบริษัทประกันภัย ติดต่อบริษัทประกันภัยที่คุณได้ทำกรมธรรม์รถยนต์ไว้ แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์และหมายเลขคดีจากตำรวจ ตรวจสอบสิทธิ์และกระบวนการเคลมประกัน 3.แจ้งกรมการขนส่งทางบก แจ้งเหตุการณ์ให้กรมการขนส่งทราบ เพื่อป้องกันการนำรถไปใช้ในทางผิดกฎหมาย ขอความช่วยเหลือในการตรวจสอบข้อมูลการโอนกรรมสิทธิ์หรือการปลอมแปลงเอกสาร 4.แจ้งเตือนสาธารณะ แชร์ข้อมูลรถที่ถูกขโมยผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมระบุข้อมูลสำคัญ เช่น หมายเลขทะเบียน สีรถ และรูปภาพ แจ้งเครือข่ายอู่ซ่อมรถ ร้านขายอะไหล่ และตลาดรถมือสองในพื้นที่ 5.ตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียง ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านหรือผู้ที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุให้ช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิด หลักฐานจากกล้องวงจรปิดอาจช่วยตำรวจในการติดตามตัวผู้กระทำความผิด 6.ติดตั้งระบบติดตามรถ GPS หากรถของคุณติดตั้งระบบ GPS หรือเครื่องติดตาม แจ้งบริษัทที่ให้บริการเพื่อช่วยตรวจสอบตำแหน่งรถ ระบบติดตามช่วยเพิ่มโอกาสในการกู้คืนรถได้อย่างรวดเร็ว สามารถสั่งตัดไดสตาร์ท ติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์ จุดอ่อนของจีพีเอสติดรถยนต์ 1.การตัดสัญญาณ GPS ผู้โจรกรรมอาจใช้ เครื่องตัดสัญญาณ

กล้องติดหน้ารถ (Dash Cam) มี 7 ประเภท

โดย |2024-12-13T15:14:18+07:00ธันวาคม 13th, 2024|บทความ GPS|

1.กล้องหน้ารถแบบเลนส์เดี่ยว (Single-Lens Dash Cam)    ลักษณะการใช้งาน: บันทึกภาพเฉพาะด้านหน้ารถ ข้อดี ราคาถูก ติดตั้งง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบันทึกเฉพาะเหตุการณ์ด้านหน้า 2.กล้องหน้ารถแบบเลนส์คู่ (Dual-Lens Dash Cam) ลักษณะการใช้งาน: บันทึกภาพด้านหน้าและด้านในรถ หรือด้านหน้าและด้านหลัง ข้อดี ครอบคลุมทั้งด้านหน้าและภายใน (เหมาะสำหรับรถแท็กซี่/รถเช่า) สามารถบันทึกภาพด้านหลังเพื่อเพิ่มความปลอดภัย 3.กล้องหน้ารถแบบรอบทิศทาง (360-Degree Dash Cam)  ลักษณะการใช้งาน: บันทึกภาพรอบคันรถ ข้อดี มุมมองกว้าง เหมาะสำหรับการจอดรถในที่อันตรายหรือแคบ 4.กล้องหน้ารถแบบกระจกมองหลัง (Rearview Mirror Dash Cam) ลักษณะการใช้งาน: กล้องติดในรูปแบบกระจกมองหลัง พร้อมฟังก์ชันบันทึกภาพ ข้อดี ไม่เกะกะ ใช้แทนกระจกมองหลังได้ มีฟังก์ชันช่วยจอดรถ 5.กล้องหน้ารถแบบสมาร์ต (Smart Dash Cam) ลักษณะการใช้งาน: ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันหรือเชื่อมต่อ Wi-Fi ข้อดี ดูภาพหรือวิดีโอแบบเรียลไทม์ผ่านมือถือ ตั้งค่าการใช้งานได้สะดวก 6. กล้องหน้ารถพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่

Green Logistics ฟอร์ทร่วมกันเปลี่ยนแปลงวันนี้เพื่อโลกที่ดีกว่าในอนาคต

โดย |2024-12-04T10:57:23+07:00ธันวาคม 4th, 2024|บทความ GPS|

"Green Logistics หรือ โลจิสติกส์สีเขียว คือคำตอบของการจัดการโลจิสติกส์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมยังคงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ทำไม Green Logistics ถึงสำคัญ? 1.ลดการปล่อยมลพิษ : เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมลพิษ 2.ประหยัดต้นทุน : การใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ 3.สร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้กับแบรนด์ : จะช่วยสร้างความไว้วางใจและเพิ่มความน่าสนใจให้กับแบรนด์ 4. เพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง : ทำให้การขนส่งสินค้าถูกส่งถึงมือผู้รับได้อย่างรวดเร็ว   วิธีการนำ Green Logistics มาใช้ 1.รถขนส่งไฟฟ้า : การใช้รถที่ประหยัดพลังงานเพื่อลดการปล่อยมลพิษ 2.การวางแผนเส้นทางการขนส่ง : ลดระยะเวลาในการเดินทางและการใช้น้ำมัน 3.ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้หรือ :วัสดุรีไซเคิลเพื่อลดขยะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม   Green Logistics คือโอกาสสำหรับธุรกิจ 1.ระบบบริหารจัดการการขนส่ง (TMS) การวางแผนการจัดเที่ยววิ่ง เส้นทาง และจุดส่งที่ใช้ น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยลง การจัดสรรรถบรรทุกขนส่งและการจัดสินค้าขึ้นรถเพื่อให้คุ้มกับการ เดินทางทั้งไปและกลับ 2.Telematics ติดตามรถบรรทุกขนส่งแบบเรียลไทม์ ลดปริมาณการใช้น้ำมันและการใช้กล้อง MDVR แบบ

6 เอกสารสำคัญหาย ทำใหม่ได้โดยไม่ต้องแจ้งความ

โดย |2024-11-14T15:04:17+07:00พฤศจิกายน 14th, 2024|บทความ GPS|

  หากทำเอกสารสำคัญส่วนตัวสูญหาย ปัจจุบันไม่ต้องไปแจ้งความแล้ว แต่ให้รีบไปดำเนินการตามสถานที่หน่วยงานที่รับผิดชอบและทำเอกสารชิ้นใหม่ทันที เพื่อป้องกันการแอบอ้าง ในการกระทำความผิด หรือแอบอ้างสวมรอย โดยเอกสารที่สามารถทำใหม่ได้เลยไม่ต้องแจ้งความก่อน ได้แก่ 1. สำเนาทะเบียนบ้าน : ใช้บัตรประชาชนเจ้าบ้านเพื่อขอทำใหม่ กรณีมอบอำนาจต้องใช้ หนังสือมอบอำนาจ และบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจด้วย 2. บัตรประชาชน        : ใช้เอกสารที่มีรูปถ่ายที่ทางราชการออกให้ เช่น ใบอนุญาตขับขี่หนังสือเดินทาง เพื่อขอทำใหม่ 3. ป้ายทะเบียนรถ       : ใช้สมุดคู่มือการจดทะเบียนรถ และสำเนาบัตรประชาชน หากติดไฟแนนซ์ต้องมีหนังสือรับรอง และหนังสือมอบอำนาจจากไฟแนนซ์ เพื่อขอทำใหม่ 4. ใบอนุญาตขับขี่       : ใช้บัตรประชาชน พร้อมสำเนาเพื่อขอทำใหม่ 5. บัตรประกันสังคม    : บัตรรับรองสิทธิรักษาพยาบาล ใช้บัตรประชาชนเพื่อขอทำใหม่ 6. บัตรประจำตัวผู้เสียภาษี : ใช้เอกสารที่กำหนดตามแต่ละประเภทผู้เสียภาษีเพื่อขอทำใหม่

ข้อควรปฏิบัติ หลัง “รถยนต์” ถูกน้ำท่วม

โดย |2024-10-22T09:27:47+07:00ตุลาคม 22nd, 2024|บทความ GPS|

เมื่อน้ำท่วมรถ รถจมน้ำ ต้องทำยังไง วิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้น   วิธีดูแลรักษารถสันดาป เมื่อถูกน้ำท่วมหรือรถจมน้ำ  ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์เด็ดขาด การสตาร์ทเครื่องยนต์หลังจากน้ำท่วมอาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้า ตรวจสอบระดับน้ำเข้ารถ สำรวจดูว่าน้ำท่วมถึงระดับใดภายในรถ เพื่อประเมินความเสียหายเบื้องต้น นำเข้าศูนย์บริการหรืออู่ ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบระบบต่างๆ อย่างละเอียด ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ตรวจสอบความเสียหายของระบบไฟฟ้าทั้งหมด รวมถึงแบตเตอรี่และฟิวส์ต่างๆ ตรวจสอบเครื่องยนต์ ให้ช่างตรวจสอบเครื่องยนต์อย่างละเอียดเพื่อหาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เปลี่ยนฟิวส์ที่ขาด หากพบฟิวส์ที่ขาด ให้เปลี่ยนใหม่ทันที ถ่ายน้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์ น้ำอาจปนเปื้อนเข้าไปในน้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง วิธีดูแลรักษารถ EV เมื่อถูกน้ำท่วมหรือรถจมน้ำ  ห้ามสตาร์ทรถเด็ดขาด เช่นเดียวกับรถสันดาป การสตาร์ทรถยนต์ไฟฟ้าหลังจากน้ำท่วมอาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อระบบไฟฟ้า ควรรักษาระยะห่างกับตัวรถ ระบบไฟฟ้าแรงสูงในรถยนต์ไฟฟ้าอาจเป็นอันตรายได้ หากไม่แน่ใจ ควรรักษาระยะห่างและรอผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเหลือ แจ้งศูนย์บริการ ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบและดำเนินการแก้ไข ตรวจสอบระบบไฟฟ้าแรงสูง ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบระบบไฟฟ้าแรงสูงและแบตเตอรี่อย่างละเอียด ตรวจสอบมอเตอร์และระบบขับเคลื่อน ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบมอเตอร์และระบบขับเคลื่อนเพื่อหาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น          โดยภาพรวมแล้ว รถยนต์สันดาปอาจมีความสะดวกในการดูแลรักษาหลังน้ำท่วมมากกว่ารถ EV เล็กน้อย เนื่องจากสามารถนำรถเข้าซ่อมได้ที่อู่ทั่วไป และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมมักจะต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม ระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถแต่ละคันก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเช่นกัน         ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ประเภทใด การขับรถลุยน้ำท่วมถือเป็นความเสี่ยงและควรหลีกเลี่ยง หากรถของคุณประสบปัญหาน้ำท่วม ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรติดต่อบริษัทประกันภัยและนำรถเข้าตรวจสอบโดยช่างผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด เพื่อประเมินความเสียหายและดำเนินการซ่อมแซมอย่างเหมาะสม รถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีระบบไฟฟ้าแรงสูงและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ซึ่งต้องได้รับการดูแลจากช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เฉพาะทางเท่านั้น

วิธีดูแลรถยนต์ช่วงหน้าฝนง่ายๆ 3 Checklist

โดย |2024-08-29T13:19:32+07:00สิงหาคม 29th, 2024|บทความ GPS|

               1.ดูแลการใช้งานแบตเตอรี่ รู้หรือไม่?            การใช้รถยนต์บนพื้นที่ที่มีน้ำฝนหรือความชื้นมาก ๆ จะทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานของ แบตเตอรี่น้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่น้อยลงถึง 1-2 ปีเลยทีเดียว อีกทั้งอาจส่งผลให้รถสตาร์ทไม่ติด กระแสไฟฟ้ารั่ว และเกิดไฟช้อตได้ ช่วงหน้าฝนแบบนี้ จึงควรหมั่นดูแลเป็นพิเศษ          วิธีดูแล           1.ใช้กระดาษทราย หรือแปลงลวดมาขัดบริเวณมีขี้เกลือ          2.นำผ้าแห้งมาซับ และฉีดสเปรย์ไล่ความชื้น          3.ทาจารบีเคลือบบาง ๆ ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงบริเวณจุดที่มีน้ำท่วมสูง และลดความเร็วในการขับขี่ เพื่อป้องกันความชื้นของระบบไฟฟ้าภายในห้องเครื่องรถยนต์      

5 พฤติกรรมต้องห้ามที่ไม่ควรทำกับแอร์รถยนต์เด็ดขาด

โดย |2024-08-16T13:04:15+07:00สิงหาคม 16th, 2024|บทความ GPS|

                      การดูแลรักษาระบบปรับอากาศในรถยนต์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้แอร์รถยนต์ทำงานได้ดีและ ยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น ต่อไปนี้คือ 5 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำกับแอร์รถยนต์เด็ดขาด             1.นำการบูรหรือสารระเหยไว้ภายในรถ            การบูรจะระเหยตลอดเวลาและสะสมในตู้แอร์ รวมกับสิ่งสกปรกและความชื้น ทำให้คอยล์เย็นอุดตันและเป็น จุดสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรีย            2.ไม่เปลี่ยนไส้กรองแอร์เมื่อถึงเวลา           ไส้กรองแอร์สะสมฝุ่นและสิ่งสกปรก ซึ่งสามารถทำให้ระบบแอร์ทำงานหนักขึ้น และอาจก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น ควรเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาที่กำหนด            3.ปรับระดับอุณหภูมิเย็นเกินไป    

เหตุผลที่ควรรู้ หน้าฝนทำไมยังต้องล้างรถ

โดย |2024-07-26T09:37:54+07:00กรกฎาคม 26th, 2024|บทความ GPS|

เกิดคราบฝังแน่น หน้าฝนเสี่ยงต่อการเกิดคราบฝังแน่น เพราะเมื่อรถแห้งไปแล้วจะเกิดคราบน้ำที่ผิวรถ หากเป็นรถที่จอดกลางแจ้ง หลังจากฝนตกแดดออกคราบน้ำฝนที่แห้งติดอยู่บนผิวรถจะส่งผลให้ทำความสะอาดได้ยากยิ่งขึ้น จึงควรล้างรถอย่างสม่ำเสมอโดยเฉลี่ยทุก 7-10 วัน เสี่ยงต่อการเกิดสนิม ไม่ว่าจะจอดรถตากฝน ขับรถฝ่าฝน หรือลุยน้ำท่วม ทำให้มีความชื้นมากกว่าปกติ จึงทำให้รถมีโอกาสเกิดความชื้นสะสมจนทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ เป็นสนิมได้ การดูแลรถด้วยการล้างและเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังจากโดนฝนมาแล้ว จึงช่วยรักษาสภาพรถคันโปรดของคุณให้ใหม่อยู่เสมอได้ ผิวรถเสียเพราะเศษใบไม้ หากจอดรถอยู่ใต้ต้นไม้ ก็อาจจะทำให้เศษใบไม้ร่วงหรือปลิวมาเกาะติดอยู่บนหลังคารถได้ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ จะทิ้งรอยคราบแห้งกรังเอาไว้ได้ ทำให้ผิวรถเสียโดยใช่เหตุ และทำความสะอาดได้ยากด้วย จึงไม่ควรปล่อยให้เศษใบไม้ให้แห้งติดรถ หากไม่มีเวลาล้างจริง ๆ ก็ให้รีบหยิบเศษใบไม้ออกจากตัวรถเสียก่อนหลังจากฝนหยุดตก เพื่อจะได้ทำความสะอาดรถได้ง่ายขึ้น น้ำฝนมีฤทธิ์เป็นกรด ปกติน้ำฝนมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ อยู่แล้ว แต่ด้วยมลพิษทางอากาศในปัจจุบัน จึงส่งผลให้ฝนมีค่า pH ต่ำกว่าเดิม โดยเฉพาะในย่านที่เป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง จะยิ่งส่งผลให้ฝนที่ตกลงมากลายสภาพเป็นฝนกรด (Acid Rain) ได้ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ก็จะกัดกร่อนสีรถ ทำให้รถดูหมอง และสีรถเสื่อมสภาพก่อนอายุการใช้งานจริง   สนใจติดตั้ง GPS FORTH Line OA :

Eye Beacon อุปกรณ์การติดตามหางลากกับหัวลากรถ

โดย |2024-07-11T13:45:33+07:00กรกฎาคม 11th, 2024|บทความ GPS|

  ตรวจสอบตำแหน่งร่วมถึงเส้นทางการเดินทางของหางลากได้อย่างละเอียดแม่นยำ ตรวจสอบความเรียบร้อยของการขนส่งป้องกันการสลับหางลากที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาระบบการขนส่งได้ดียิ่งขึ้น ***************************************************************** สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Line OA : @forthtrack Tel. : 02-615-0808 / Call Center 061-417-0808 Website : www.forthtrack.co.th  

Go to Top